ค้นหาบล็อกนี้

2553-01-25

2010-01-21 กราฟราคายางAFET,TOCOM,SHANGHAI,ค่าเงินเยน,ราคาทองคำ, ราคาน้ำมันดิบ,ราคาข้าวCBOT , Dowjones


การเคลื่อนไหว ราคายางแผ่นรมควันชั้น 3 AFET

21 มกราคม 2553

  แนวรับ             104.00

  แนวต้าน               109.00

 Open 105.00 High 107.00 Low 105.00 Close 106.70 Change +0.85 

   วันนี้ ตลาด AFET อยู่ที่ 106.70 บาท เพิ่มขึ้น 0.85 บาท จากปัจจัยที่ประเทศจีนตัวเลย GDP และCPI ปรับตัวเพิ่มขึ้น รวมถึงดัชนีอุตสาหกรรมของจีนก็ปรับตัวดี ขึ้นทำให้คาดว่าจีนยังคงมีความต้องการยางธรรมชาติเพิ่มขึ้นต่อ เนื่อง รวมถึงสภาพอากาศทางใต้ในบ้างพื้นที่ยางเริ่มผลัดใบ  ทำให้ปริมาณยางออกสู่ตลาดน้อย 
 

      ตลาดTOCOM ปิดตลาดที่ราคา 298.00 เยน -4.6 เยน โดยมีแนวรับ 280  แนวต้านที่ 310 เยน  ธนาคารโลกคาดการณ์ว่า เศรษฐกิจของกลุ่มประเทศกำลังพัฒนา ในเอเชียตะวันออก ซึ่งไม่รวมญี่ปุ่น ฮ่องกง ไต้หวัน เกาหลีใต้ และสิงคโปร์ จะขยายตัวในอัตรา 8.1% ในปี 2553 ซึ่งสูงกว่าที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ว่าจะขยายตัวเพียง 7.8% ขณะเดียวกันคาดว่าเศรษฐกิจในเอเชียใต้จะขยายตัว 7% ในปี 2553อย่างไรก็ตาม ธนาคารโลกเตือนว่าเศรษฐกิจของกลุ่มประเทศกำลังพัฒนา ในเอเชียอาจเผชิญความเสี่ยงของภาวะฟองสบู่ด้านสินทรัพย์และอัตรา ขยายตัวที่ร้อนแรงเกินไป  
         
ธนาคารโลกระบุว่า เอเชียจะเป็นแกนนำสำคัญที่พยุงเศรษฐกิจ ทั่วโลกให้ฟื้นตัวจากภาวะถดถอยรุนแรง หลังจากธนาคารกลางในเอเชียตัดสินใจลดอัตราดอกเบี้ย และรัฐบาลในเอเชียใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจวงเงินรวมกว่า 9.50 หมื่นล้านดอลลาร์ แต่จนถึงขณะนี้พบว่า มีธนาคารกลางบางแห่งในเอเชียตัดสินใจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย หรือ มาตรการดูดซับสภาพคล่องส่วนเกินออกจากระบบการธนาคาร เพื่อยับยั้งเงินเฟ้อ  
         นอกจากนี้
ธนาคารโลกคาดการณ์ว่า เศรษฐกิจจีนจะขยายตัว 9% ในปีนี้และปีหน้า ขณะที่เศรษฐกิจในประเทศไทยและมาเลเซียจะกลับมา ขยายตัวได้ดีในปีนี้ ส่วนเศรษฐกิจเวียดนามและอินโดนีเซียคาดว่าจะขยายตัวอย่างรวดเร็ว และคาดว่าเศรษฐกิจอินเดียจะขยายตัว 7.6% ในปีนี้ และ 8% ในปีหน้า  
         
ธนาคารโลกคาดว่า กระแสเงินทุนไหลเข้าจำนวนมากใน เอเชียใต้จะทำให้รัฐบาลตัดสินใจปรับขึ้นค่าเงินในประเทศของตนเอง ซึ่งจะทำให้อุตสาหกรรมส่งออกซบเซาลง 

     วันนี้ตลาด SHANGHAI (จีน) ปิดตลาด+285 ที่ราคา 25,730    สำนักงานสถิติแห่งชาติจีนเปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของจีน ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อที่สำคัญขยายตัวขึ้น 1.9% เมื่อเทียบเป็นรายปีในเดือนธ.ค. 2552 ซึ่งถือเป็นตัวเลขที่ขยายตัวขึ้นมาจากสถิติเดือนพ.ย.ที่ขยายตัว 0.6% และเป็นช่วงที่ดัชนีเริ่มปรับตัวขึ้นเป็นครั้งแรกในรอบ 9 เดือนส่วนดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ขยายตัว 1.7% ในเดือนธ.ค.จากระดับปีที่แล้ว นับเป็นการขยายตัวเป็นครั้งแรกในรอบเดือน นับตั้งแต่เดือนธ.ค. 2552 เมื่อเดือนธ.ค.ที่ผ่านมา ราคาผู้บริโภคในเขตเมืองลดลง 0.9% และชนบทลดลง 0.3% ส่วนราคาอาหารที่คิดเป็นสัดส่วนประมาณ 1 ใน 3 ของ CPI เพิ่มขึ้น 0.7%

         โดยผลผลิตภาคอุตสาหกรรมปี 2552 ขยายตัว 11% จากปี 2552 แต่ยังต่ำกว่าปี 2551 อยู่ประมาณ 1.9%  
         นายหม่า เจียนถัง ผู้อำนวยการ
สำนักงานสถิติแห่งชาติระบุว่า ผลผลิตสินค้าอุตสาหกรรมมูลค่าเพิ่ม ดีดตัวขึ้น 18.5%ต่อปี ในเดือนธ.ค. เมื่อเทียบกับเดือนพ.ย.ที่ขยายตัว 19.2%ต่อปี        

         ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ไตรมาส 4 ปี 2552 ขยายตัว 10.7% เมื่อเทียบกับไตรมาส 4 ปีที่แล้ว มากกว่าไตรมาส 3 ที่ขยายตัว 8.9% ส่วนจีดีพีปี 2552 ขยายตัว 8.7% คิดเป็นมูลค่าทั้งสิ้น 33.54 ล้านล้านหยวน หรือ 4.91 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ

            แดวู บริษัทในเครือจี เอ็ม  หรือเจนเนอรัล มอเตอร์ส ได้เปิดตัวขายรถยนต์รุ่นเล็กในเกาหลีใต้ โดยมีชื่อว่า "มาทิซ ครีเอทีฟ" ที่มาพร้อมกับเครื่องยนต์เบนซินบล็อกใหม่ 1,000โปรเจกต์นี้มีไอเดียเริ่มต้นอยู่ที่การผลิตเพื่อขายในตลาด สหรัฐอเมริกายุคที่รถยนต์ไซส์เล็ก   จีเอ็มวางเป้าหมายในการผลิตเพื่อขาย 150 ประเทศทั่วโลก ไม่ใช่แค่สหรัฐอเมริกาที่เดียว ผลคือ แดวูซึ่งรับหน้าที่การพัฒนารถยนต์ไซส์เล็กให้กับจีเอ็ม ก็เลยได้เข้ามามีส่วนในงานนี้ และได้รับสิทธิ์การประเดิมตลาดรถยนต์รุ่นนี้ซึ่งรู้จักในชื่อ Global Mini Car เป็นแบรนด์แรก        จีเอ็มทุ่มทุนจำนวน 29,500 ล้านวอน และใช้เวลาประมาณ 27 เดือนสำหรับการเตรียมงานครั้งนี้ ซึ่ง Global Mini Car ที่จะขายในเกาหลีใต้มาในชื่อ มาทิซ ครีเอทีฟ และจะขายคู่กับมาทิซรุ่นธรรมดา          ราคาขายในเกาหลีใต้เคาะออกมาแล้วที่ 9.06-10.09 ล้านวอน  

      ราคาน้ำมันดิบอยู่ 77.85 เหรียญดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล +0.11 เหรียญดอลลาร์สหรัฐ   โดยสภาพอากาศยังคงรุนแรงอยู่จึงมีผลให้ ความต้องการพลังยังคงสูงโดยเฉพาะถ่านหิน และน้ำมันดิบ และตัวเลขเศรษฐกิจที่ออกมาดีทำให้เชื่อว่าจีนจะขยายตัวไป ได้อีก

      ราคาตลาดกลางหาดใหญ่วันนี้ น้ำยางสด 95.00 บาท + 1.50 บาท ราคายางแผ่นดิบ อยู่ที่ 95.48 บาท -0.98 บาท ยางแผ่นรมควันอยู่ที่ 99.09 บาท - 1.40 บาท ราคา FOB อยู่ที่ 106.00 บาท +0.00 บาท ในช่วงนี้ภาคใต้มีฝนตกหนัก ทำให้ปริมาณยางออกสู่ตลาดน้อย 

                                                      ราคาสินค้า

  21 มกราคม 2553    
     
             
  น้ำมันดิบ 77.81    +0.07      
  ทองคำ 1111.00                  
  เยนต่อดอลลาร์ 91.54        
  บาทต่อดอลลาร์ 32.94        
  บาทต่อเยน 35.95        
  ข้าวขาว5% (คน.) 17.05   -0.00 ข้าวหอมมะลิ          30.75 +0.00
  TOCOM ญี่ปุ่น 298.0    -4.6 คิดเป็นบาท 107.00  
  SHANGHAI จีน 25,730    +285      
  AFET ไทย 106.70   +0.85 ส่วนต่าง Afet/Tocom 0.30
ราคาตลาดกลางหาดใหญ่      
  น้ำยางสด 95.00 +1.50      
  ยางแผ่นดิบ 95.48 -0.98      
  ยางแผ่นรมควันชั้น3 99.09 -1.40      
  ราคาFOB 106.00 +0.00  


ไม่มีความคิดเห็น: