"13 หนทางฝ่าวิกฤติ...ผ่อนบ้านไม่
ไหว
ความผันผวนของเศรษฐกิจบ้ านเราที่ดีๆ ร้ายๆ
สลับเปลี่ยนหมุนเวียนไปอยู่ ตลอดเวลานับเป็นสาเหตุสำคัญที่ ทำให้คนจำนวนมากจำต้องเผชิญปั ญหา
"กระแสรายได้มีไม่พอที่จะผ่ อนชำระค่างวดบ้าน" ไปตามๆ กัน
ซึ่งปัญหาลักษณะนี้หากปล่ อยปละละเลย
หรือแก้ไขอย่างไม่ถูกต้องแล้ว
ก็จะมีผลทำให้ลุกลามกลายเป็นปั ญหาใหญ่โตรุนแรงขึ้นได้
อาจเลวร้ายจนถึงขั้นต้องถูกฟ้ องร้องและสูญเสียบ้านอยู่อาศั ยไปในที่สุดและยังเป็นตัวกระตุ้ นให้เกิดปัญหาอื่นๆ
ในครอบครัวตามมาอีกนานัปการ
ที่จริงแล้วการผ่อนบ้านไม่ ไหวเป็นปัญหาระยะสั้นชั่วครั้ งชั่วคราว
ที่ไม่ใช่ปัญหาเลวร้ายแต่ ประการใด
เป็นเพียงปัญหาปกติที่เกิดขึ้ นกับใครก็ได้
เพียงทว่าผู้โชคร้ายที่ตกอยู่ ในภาวการณ์ดังกล่าวจะต้องรีบรั กษาและเยียวยาให้ได้อย่างทันท่ วงทีเท่านั้น
ก็จะสามารถผ่อนหนักเป็นเบา และหลุดรอดจากห้วงเวลาที่เกิดวิ กฤติการณ์ได้
เป็นที่น่าเสียดายว่าการถูกยึ ดบ้านหรือถูกฟ้องล้ มละลายของคนจำนวนมากล้วนเกิดขึ้ นจากสาเหตุจากความรู้เท่าไม่ถึ งการณ์เป็นสำคัญ
จากการไม่ได้ดูแลจัดการปัญหาอย่ างถูกต้องตั้งแต่เริ่มแรก
ทำให้ปัญหาลุกลามใหญ่โตกลายเป็ นวิกฤติการณ์จนยากเกินกว่าที่ จะเยียวยาได้ในที่สุด
ปกติเวลาคนทั่วไปเผชิญกับปั ญหาผ่อนค่างวดบ้านไม่ได้
สิ่งที่นิยมกระทำกันก็คือหยุดส่ งค่างวดไปเฉย ๆ พร้อมๆ
กับการหนีหายไม่ติดต่อกับสถาบั นการเงิน
การจัดการปัญหาลักษณะนี้เป็ นแนวทางแก้ไขปัญหาที่ผิดพลาดเป็ นอย่างยิ่ง
เพราะเป็นการซ้ำเติมให้สภาพปั ญหายิ่งเลวเพิ่มขึ้นไปเรื่อยๆ
แนวทางแก้ไขปัญหาที่ถูกต้อง
ก็คือจะต้องรีบเจรจาขอผ่อนผั นและประนอมหนี้กับสถาบันการเงิ นผู้ปล่อยกู้ให้ได้
เพื่อปรับแต่งเงื่อนไขข้อผูกพั นรายจ่ายค่างวดบ้านใหม่เป็ นการชั่วคราว
ให้เกิดสมดุลระหว่างรายรั บและรายจ่ายของครอบครัวขึ้นอั นจะมีผลทำให้สามารถยืนหยัดฝ่าฟั นจนกระทั่งวิกฤติการณ์ผ่านพ้ นไปได้
โดยทั่วไปแล้วคนที่เผชิญกับปั ญหาผ่อนค่างวดบ้านไม่ได้มีตั้ งแต่ปัญหาเล็กน้อยจนถึงขั้นปั ญหาขั้นรุนแรง
มีหนทางในการเจรจาเพื่อขอผ่อนผั นและประนอมหนี้
กับสถาบันการเงินอยู่มากมายถึง 13 หนทางด้วยกัน คือ
1. ขอผ่อนผันชำระยอดหนี้ค้างชำระ
โดยลูกหนี้อาจขอผ่อนชำระคื นยอดหนี้ที่ค้างได้นานสูงสุด 36 เดือน
ติดต่อกันโดยทำได้ใน 3 ลักษณะ คือ
ลักษณะแรกเป็นการขอเฉลี่ยหนี้ที ่ค้างชำระทั้งหมดออกเป็นงวด ๆ งวดละเท่า ๆ
กัน และผ่อนชำระคืนติดต่อกันทุกเดื อน
ลักษณะที่สองเป็นการชำระหนี้ที่ ค้างทั้งหมดในเวลาที่ตกลง ( ไม่เป็นงวด )
หรือลักษณะสุดท้ายเป็ นการขอชำระหนี้ที่ค้างเป็นเงิ นก้อนเป็นงวดๆ
ตามเวลาที่ตกลง
2. ขอขยายเวลาชำระหนี้
ลูกหนี้สามารถขอขยายระยะเวลากู้ เงินต่อไปได้ถึง 30 ปี นับจากปัจจุบัน
เพื่อลดเงินงวดให้น้อยลง
ซึ่งเงื่อนไขโดยทั่วไปก็คืออายุ ของผู้กู้เมื่อรวมกับระยะเวลาที ่ขอขยายแล้วจะต้องไม่เกิน
70 ปี และดอกเบี้ยที่ค้างชำระทั้งหมด (ถ้ามี)
ลูกหนี้จะต้องชำระให้หมดเสียก่ อน
3. ขอกู้เพิ่มเพื่อชำระดอกเบี้ยที่ ค้างชำระ
เป็นกรณีที่ลูกหนี้ไม่ สามารถชำระดอกเบี้ยที่ค้างทั้ งหมดได้
ลูกหนี้สามารถขอกู้เพิ่มเพื่ อชำระดอกเบี้ยที่ค้างชำระพร้ อมกับขยายระยะเวลากู้เงินได้
โดยเงื่อนไขโดยทั่วไปก็คื อในระยะเวลา 3 เดือน ก่อนการขอกู้เพิ่ม
ลูกหนี้จะต้องชำระเงินงวดอย่ างสม่ำเสมอ
และเมื่อนำวงเงินที่ขอกู้เพิ่ มรวมกับเงินต้นคงเหลือแล้ว
เงินงวดใหม่ต้องมากกว่าไม่เกิ นร้อยละ 25 ของเงินงวดเดิม
4. ขอชำระแต่ดอกเบี้ยประจำเดือน
ในบางช่วงเวลาลูกหนี้อาจขอผ่ อนชำระแต่ดอกเบี้ยประจำเดือนได้
ปกติเงื่อนไขแบบนี้จะให้เฉพาะกั บลูกหนี้ที่มีประวัติการชำระคื นที่ดีเท่านั้น
และระยะเวลาผ่อนชำระจะให้ได้ นานสูงสุดไม่เกิน 12 เดือน
และขอดำเนินการได้ครั้งเดียว
5. ขอชำระต่ำกว่าเงินงวดปกติ ปกติเงื่อนไขการขอผ่อนผันแบบนี้
มักกำหนดให้จำนวนเงินที่ชำระต่ ำกว่าเงินงวดปกตินั้น
ต้องมากกว่าดอกเบี้ยประจำเดื อนอย่างน้อย 500 บาท
ระยะเวลาผ่อนชำระได้นานสูงสุ ดไม่เกิน 2 ปี และขอดำเนินการได้ครั้งเดียว
6. ขอลดอัตราดอกเบี้ยเป็นกรณีพิเศษ
เป็นการขอผ่อนผันในกรณีที่ลู กหนี้ถูกปรับอัตราดอกเบี้ยเงิ นกู้เพิ่มขึ้นจากอัตราปกติ
ลูกหนี้สามารถแจ้งขอลดอั ตราดอกเบี้ยในวันที่ชำระเงินได้ หากลูกหนี้ได้ชำระเงินตามเงื่ อนไข
คือชำระหนี้ที่ค้างทั้งหมดในวั นเดียว
(รวมทั้งดอกเบี้ยที่ค้างทั้ งหมดด้วย)
หรือชำระหนี้ที่ค้างเป็นเงินก้ อนครั้งเดียวเท่ากับ 3 งวด
7. ขอโอนบ้านให้กับสถาบันการเงิ นเป็นการชั่วคราว
แล้วซื้อคืนภายหลัง ปกติสถาบันการเงินจะรับโอนหลั กประกัน
โดยหักกลบลบหนี้ในจำนวนไม่เกิน 90 % ของมูลค่าหลักประกัน
หากมีหนี้ส่วนที่เกิน ลูกหนี้จะต้องชำระให้เสร็จสิ้ นภายในวันที่โอน
โดยหลักประกันจะต้องอยู่ ในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล
หรือในเขตเทศบาลของจังหวัดอื่ นเท่านั้น
สถาบันการเงินจะคิดค่าเช่าในอั ตราเดือนละ 0.4 – 0.6 %
ของมูลค่าหลักประกัน ทำสัญญา 1 ปี เมื่อครบกำหนด 1 ปี
แล้วจะต่อสัญญาจากพฤติ กรรมการอยู่อาศัยและการปฏิบัติ ตามสัญญาเช่า
ผู้เช่าต้องวางเงินประกันค่าเสี ยหายในวงเงินค่าเช่า 1 เดือน
พร้อมทั้งชำระค่าเช่าล่วงหน้า 1 เดือน ภายใน 3 ปี
นับตั้งแต่วันทำสัญญาเช่า เมื่อผู้เช่ารายใดมีความประสงค์ ที่จะขอซื้อคืน
สถาบันการเงินจะขายคืนให้
ราคาที่ขายคืนปกติจะพิ จารณาจากยอดหนี้คงเหลือที่ใช้หั กกลบลบหนี้กับหลักประกัน
ทั้งนี้ในการซื้อคืนของลูกหนี้ ผู้เช่าอยู่อาศัยสามารถขอสินเชื ่อได้ด้วย
8. ขอให้สถาบันการเงินชะลอฟ้อง
เงื่อนไขโดยทั่วไปก็คือลูกหนี้ จะต้องชำระเงินติดต่อกันให้ทั นงวดภายใน 6
เดือน แล้วผ่อนชำระต่อตามสัญญาเดิม หรือขอชำระแต่ดอกเบี้ยประจำเดื อน
โดยไม่ผิดนัดเป็นเวลาไม่เกิน 12 เดือน
เมื่อครบกำหนดตามระยะเวลาที่ ขอผ่อนผันแล้ว
หากลูกหนี้ชำระหนี้ตามข้ อตกลงโดยไม่ขาดส่ง
สถาบันการเงินก็จะคำนวณเงิ นงวดใหม่ที่ลูกหนี้ต้องชำระต่ อไป
9. ขอให้สถาบันการเงินถอนฟ้อง
เงื่อนไขในการขอประนอมหนี้แบบนี ้ก็คือลูกหนี้ที่ถูกฟ้องจะต้ องมาติดต่อชำระหนี้ทันงวดและไม่ มีดอกเบี้ยค้าง
พร้อมทั้งชำระค่าธรรมเนี ยมศาลและค่าใช้จ่ายครบถ้วน
10. ขอให้ชะลอการขายทอดตลาด
ลูกหนี้ที่สถาบันการเงินยึดทรั พย์แล้วรอการขายทอดตลาด
อาจเจรจาขอให้ชะลอการขายไว้ก่ อนได้
โดยลูกหนี้จะต้องชำระค่าธรรมเนี ยมศาลค่าใช้จ่ายต่างๆ
ในชั้นฟ้องคดีและบังคับคดี
รวมทั้งค่าพาหนะในการเดิ นทางของทนายความไปเลื่ อนการขายตามที่จ่ายจริงให้ครบถ้ วน
แล้วให้ลูกหนี้ชำระหนี้ติดต่อกั นไม่น้อยกว่า 6 งวด
โดยหนี้ที่เหลือต้องไม่เกินร้ อยละ 80 ของราคาประเมินหลักประกันใหม่
แล้วให้ลูกหนี้ทำสัญญากู้ใหม่
11. ขอยอมความกับสถาบันการเงิน ลูกหนี้ที่ถูกฟ้องคดีแล้ว
ลูกหนี้อาจขอยอมความกับสถาบั นการเงินได้โดยลูกหนี้จะต้ องชำระค่าธรรมเนียมศาล
ค่าใช้จ่ายในการดำเนินคดี และค่าทนายความให้ครบถ้วน
โดยเงื่อนไขของการขอยอมความที่ สำคัญ
ก็คือลูกหนี้จะต้องชำระหนี้ทั้ งหมดและไถ่ ถอนจำนองภายในระยะเวลาที่กำหนด
หรือขอกำหนดเงินงวดผ่อนชำระใหม่ ให้มีการแบ่งเบาภาระการผ่ อนชำระในระยะ 1 –
2 ปี แรกของการผ่อนชำระเวลาที่เหลื อจนชำระหนี้เสร็จสิ้น
12. ขอชะลอการยึดทรัพย์ ลูกหนี้ที่ถูกศาลพิพากษาแล้ว
ลูกหนี้อาจขอให้ชะลอการยึดทรั พย์ได้ โดยลูกหนี้จะต้องชำระค่าธรรมเนี ยมศาล
ค่าใช้จ่ายในการดำเนินคดี ค่าทนายความ
รวมถึงค่าพาหนะในการเดิ นทางของทนายความไปเลื่อนคดี ตามที่จ่ายจริง
และค่าใช้จ่ายต่างๆ ในการบังคับคดีให้ครบถ้วน
ทั้งนี้ลูกหนี้จะต้องชำระหนี้ทั ้งหมดและไถ่ ถอนจำนองภายในเวลาไม่เกิน 3
เดือน โดยต้องชำระหนี้บางส่วนก่ อนตามจำนวนที่ตกลง
โดยถ้าราคาประเมินหลักประกันสู งกว่ายอดหนี้เกินร้อยละ 80
ลูกหนี้อาจทำสัญญากู้ใหม่ได้
เมื่อได้ชำระหนี้ตามข้อตกลงกั บสถาบันการเงินติดต่อกันแล้วไม่ น้อยกว่า 6
งวด
13. ขอเปลี่ยนตัวลูกหนี้ตามสัญญากู้ ใหม่ กู้เพิ่ม
หรือเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขในสัญญา โดยเงื่อนไขปกติก็ คือ
ลูกหนี้จะต้องชำระค่าธรรมเนี ยมศาลค่าใช้จ่ายต่างๆ
ในชั้นฟ้องคดีและชั้นบังคับคดี ให้หมดเสียก่อน
และลูกหนี้เดิมจะต้องปฏิบัติ ตามขั้นตอนที่ได้ขอประนอมหนี้ ไว้
จากนั้นจึงค่อยให้ผู้กู้รายเดิ มหรือผู้กู้รายใหม่ ยื่นคำขอกู้ต่อไ
ความผันผวนของเศรษฐกิจบ้
สลับเปลี่ยนหมุนเวียนไปอยู่
"กระแสรายได้มีไม่พอที่จะผ่
ซึ่งปัญหาลักษณะนี้หากปล่
หรือแก้ไขอย่างไม่ถูกต้องแล้ว
ก็จะมีผลทำให้ลุกลามกลายเป็นปั
อาจเลวร้ายจนถึงขั้นต้องถูกฟ้
ในครอบครัวตามมาอีกนานัปการ
ที่จริงแล้วการผ่อนบ้านไม่
ที่ไม่ใช่ปัญหาเลวร้ายแต่
เป็นเพียงปัญหาปกติที่เกิดขึ้
เพียงทว่าผู้โชคร้ายที่ตกอยู่
ก็จะสามารถผ่อนหนักเป็นเบา และหลุดรอดจากห้วงเวลาที่เกิดวิ
เป็นที่น่าเสียดายว่าการถูกยึ
จากการไม่ได้ดูแลจัดการปัญหาอย่
ทำให้ปัญหาลุกลามใหญ่โตกลายเป็
ปกติเวลาคนทั่วไปเผชิญกับปั
สิ่งที่นิยมกระทำกันก็คือหยุดส่
กับการหนีหายไม่ติดต่อกับสถาบั
การจัดการปัญหาลักษณะนี้เป็
เพราะเป็นการซ้ำเติมให้สภาพปั
แนวทางแก้ไขปัญหาที่ถูกต้อง
ก็คือจะต้องรีบเจรจาขอผ่อนผั
เพื่อปรับแต่งเงื่อนไขข้อผูกพั
ให้เกิดสมดุลระหว่างรายรั
โดยทั่วไปแล้วคนที่เผชิญกับปั
มีหนทางในการเจรจาเพื่อขอผ่อนผั
กับสถาบันการเงินอยู่มากมายถึง 13 หนทางด้วยกัน คือ
1. ขอผ่อนผันชำระยอดหนี้ค้างชำระ
โดยลูกหนี้อาจขอผ่อนชำระคื
ติดต่อกันโดยทำได้ใน 3 ลักษณะ คือ
ลักษณะแรกเป็นการขอเฉลี่ยหนี้ที
กัน และผ่อนชำระคืนติดต่อกันทุกเดื
ลักษณะที่สองเป็นการชำระหนี้ที่
หรือลักษณะสุดท้ายเป็
ตามเวลาที่ตกลง
2. ขอขยายเวลาชำระหนี้
ลูกหนี้สามารถขอขยายระยะเวลากู้
เพื่อลดเงินงวดให้น้อยลง
ซึ่งเงื่อนไขโดยทั่วไปก็คืออายุ
70 ปี และดอกเบี้ยที่ค้างชำระทั้งหมด (ถ้ามี)
ลูกหนี้จะต้องชำระให้หมดเสียก่
3. ขอกู้เพิ่มเพื่อชำระดอกเบี้ยที่
เป็นกรณีที่ลูกหนี้ไม่
ลูกหนี้สามารถขอกู้เพิ่มเพื่
โดยเงื่อนไขโดยทั่วไปก็คื
ลูกหนี้จะต้องชำระเงินงวดอย่
และเมื่อนำวงเงินที่ขอกู้เพิ่
เงินงวดใหม่ต้องมากกว่าไม่เกิ
4. ขอชำระแต่ดอกเบี้ยประจำเดือน
ในบางช่วงเวลาลูกหนี้อาจขอผ่
ปกติเงื่อนไขแบบนี้จะให้เฉพาะกั
และระยะเวลาผ่อนชำระจะให้ได้
และขอดำเนินการได้ครั้งเดียว
5. ขอชำระต่ำกว่าเงินงวดปกติ ปกติเงื่อนไขการขอผ่อนผันแบบนี้
มักกำหนดให้จำนวนเงินที่ชำระต่
ต้องมากกว่าดอกเบี้ยประจำเดื
ระยะเวลาผ่อนชำระได้นานสูงสุ
6. ขอลดอัตราดอกเบี้ยเป็นกรณีพิเศษ
เป็นการขอผ่อนผันในกรณีที่ลู
ลูกหนี้สามารถแจ้งขอลดอั
คือชำระหนี้ที่ค้างทั้งหมดในวั
(รวมทั้งดอกเบี้ยที่ค้างทั้
หรือชำระหนี้ที่ค้างเป็นเงินก้
7. ขอโอนบ้านให้กับสถาบันการเงิ
แล้วซื้อคืนภายหลัง ปกติสถาบันการเงินจะรับโอนหลั
โดยหักกลบลบหนี้ในจำนวนไม่เกิน 90 % ของมูลค่าหลักประกัน
หากมีหนี้ส่วนที่เกิน ลูกหนี้จะต้องชำระให้เสร็จสิ้
โดยหลักประกันจะต้องอยู่
หรือในเขตเทศบาลของจังหวัดอื่
สถาบันการเงินจะคิดค่าเช่าในอั
ของมูลค่าหลักประกัน ทำสัญญา 1 ปี เมื่อครบกำหนด 1 ปี
แล้วจะต่อสัญญาจากพฤติ
ผู้เช่าต้องวางเงินประกันค่าเสี
พร้อมทั้งชำระค่าเช่าล่วงหน้า 1 เดือน ภายใน 3 ปี
นับตั้งแต่วันทำสัญญาเช่า เมื่อผู้เช่ารายใดมีความประสงค์
สถาบันการเงินจะขายคืนให้
ราคาที่ขายคืนปกติจะพิ
ทั้งนี้ในการซื้อคืนของลูกหนี้
8. ขอให้สถาบันการเงินชะลอฟ้อง
เงื่อนไขโดยทั่วไปก็คือลูกหนี้
เดือน แล้วผ่อนชำระต่อตามสัญญาเดิม หรือขอชำระแต่ดอกเบี้ยประจำเดื
โดยไม่ผิดนัดเป็นเวลาไม่เกิน 12 เดือน
เมื่อครบกำหนดตามระยะเวลาที่
หากลูกหนี้ชำระหนี้ตามข้
สถาบันการเงินก็จะคำนวณเงิ
9. ขอให้สถาบันการเงินถอนฟ้อง
เงื่อนไขในการขอประนอมหนี้แบบนี
พร้อมทั้งชำระค่าธรรมเนี
10. ขอให้ชะลอการขายทอดตลาด
ลูกหนี้ที่สถาบันการเงินยึดทรั
อาจเจรจาขอให้ชะลอการขายไว้ก่
โดยลูกหนี้จะต้องชำระค่าธรรมเนี
ในชั้นฟ้องคดีและบังคับคดี
รวมทั้งค่าพาหนะในการเดิ
แล้วให้ลูกหนี้ชำระหนี้ติดต่อกั
โดยหนี้ที่เหลือต้องไม่เกินร้
แล้วให้ลูกหนี้ทำสัญญากู้ใหม่
11. ขอยอมความกับสถาบันการเงิน ลูกหนี้ที่ถูกฟ้องคดีแล้ว
ลูกหนี้อาจขอยอมความกับสถาบั
ค่าใช้จ่ายในการดำเนินคดี และค่าทนายความให้ครบถ้วน
โดยเงื่อนไขของการขอยอมความที่
ก็คือลูกหนี้จะต้องชำระหนี้ทั้
หรือขอกำหนดเงินงวดผ่อนชำระใหม่
2 ปี แรกของการผ่อนชำระเวลาที่เหลื
12. ขอชะลอการยึดทรัพย์ ลูกหนี้ที่ถูกศาลพิพากษาแล้ว
ลูกหนี้อาจขอให้ชะลอการยึดทรั
ค่าใช้จ่ายในการดำเนินคดี ค่าทนายความ
รวมถึงค่าพาหนะในการเดิ
และค่าใช้จ่ายต่างๆ ในการบังคับคดีให้ครบถ้วน
ทั้งนี้ลูกหนี้จะต้องชำระหนี้ทั
เดือน โดยต้องชำระหนี้บางส่วนก่
โดยถ้าราคาประเมินหลักประกันสู
ลูกหนี้อาจทำสัญญากู้ใหม่ได้
เมื่อได้ชำระหนี้ตามข้อตกลงกั
งวด
13. ขอเปลี่ยนตัวลูกหนี้ตามสัญญากู้
หรือเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขในสัญญา โดยเงื่อนไขปกติก็ คือ
ลูกหนี้จะต้องชำระค่าธรรมเนี
ในชั้นฟ้องคดีและชั้นบังคับคดี
และลูกหนี้เดิมจะต้องปฏิบัติ
จากนั้นจึงค่อยให้ผู้กู้รายเดิ