ค้นหาบล็อกนี้

2553-01-27

2010-01-27 กราฟราคายางAFET,TOCOM,SHANGHAI,ค่าเงินเยน,ราคาทองคำ, ราคาน้ำมันดิบ,ราคาข้าวCBOT , Dowjones

การเคลื่อนไหว ราคายางแผ่นรมควันชั้น 3 AFET

27 มกราคม 2553

  แนวรับ             98.00

  แนวต้าน               103.00

 Open 101.80 High 101.80 Low 98.90 Close 99.30 Change -2.65 

   วันนี้ ตลาด AFET อยู่ที่ 99.30 บาท ลดลง 2.65 บาท จากปัจจัยที่ นโยบายเศรษฐกิจของสหรัฐอเมริกา และจีน รวมถึงค่าเงินดอลลาร์สหรัฐที่แข็งค่าขึ้น

      โดยยอดจำหน่ายของตลาดรถ ยนต์นั่งส่วนบุคคลของไทย   ในปี2552 รวมทั้งสิ้น 230,037 คัน เพิ่มขึ้น 1.43% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา โตโยต้าจำหน่ายได้เป็นอันดับ 1 คือ 100,747 คัน คิดเป็น 43.80% ฮอนด้ามาเป็นอันดับ 2 ด้วยยอดจำหน่าย 88,125 คัน มีส่วนแบ่งตลาด 38.31% และนิสสันจำหน่ายได้เป็นอันดับ 3 คือ 9,539 คัน คิดเป็น 4.15% สำหรับตลาดรถยนต์นั่งส่วนบุคคลในเดือน ธันวาคมนี้ เพิ่มขึ้น 26.51% จากเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา โดยมียอดจำหน่ายรวมทุกยี่ห้อ 30,431 คัน โตโยต้าจำหน่ายได้สูงสุด 12,207 คัน คิดเป็น 40.11% ฮอนด้ามาเป็นอันดับ 2 จำหน่ายได้ 10,792 คัน คิดเป็น 35.46% และนิสสันมาเป็นอันดับ 3 คือ 1,708 คัน มีส่วนแบ่งตลาด 5.61% 
 

      ตลาดTOCOM ปิดตลาดที่ราคา 275.60 เยน -2.6 เยน โดยมีแนวรับ 260  แนวต้านที่ 310 เยน ยอดส่งออกเดือนธ.ค.ของญี่ปุ่นพุ่งขึ้น 12.1% แตะที่ 5,412.83 พันล้านเยน ทำสถิติเพิ่มขึ้นเป็นครั้งแรกในส่วน ยอดนำเข้าเดือนธ.ค.ร่วงลง 5.5% แตะที่ 4,867.51 พันล้านเยน ส่งผลให้ญี่ปุ่นมียอดเกินดุลการค้า ติดต่อกันเป็นเดือนที่ 11 โดยมีมูลค่าทั้งสิ้น 545.32 พันล้านเยน    รายงานระบุว่า ยอดส่งออกจากญี่ปุ่นไปยังประเทศจีน พุ่งขึ้น 42.8% แตะที่ 1,070.97 พันล้านเยน เพราะได้แรงหนุนจากยอดขายรถยนต์ ชิ้นส่วนรถยนต์ และสินค้าจำพวกพลาสติก ทำให้จีนกลายเป็นผู้นำเข้าสินค้าอันดับหนึ่งและเป็นคู่ค้ารายใหญ่ สุดของญี่ปุ่น   

        ธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) เปิดเผยรายงานภาวะเศรษฐกิจรายเดือนซึ่งยืนยันว่าเศรษฐกิจในประเทศ กำลังฟื้นตัวดีขึ้น แม้ว่าขณะนี้จะยังไม่มีปัจจัยหนุนที่ช่วยให้การฟื้นตัวเป็นไป อย่างยั่งยืน ขณะเดียวกันก็เกรงว่าเศรษฐกิจอาจเผชิญกับภัยคุกคามจากภาวะเงินฝืด

      โชจิ  มูเนโอกะ ประธานสมาพันธ์เหล็กและเหล็กกล้าของญี่ปุ่น กล่าวว่า ผลผลิตเหล็กดิบในปีนี้จะฟื้นตัวขึ้นเหนือระดับ 100 ล้านตัน เนื่องจากดีมานด์จากประเทศอื่นๆในเอเชียที่ขยายตัวขึ้น

ทั้งนี้ ผลผลิตเหล็กดิบของญี่ปุ่นในปี 2552 ร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 40 ปี อีกทั้งยังเป็นการปรับตัวลงเป็นปีที่สองติดต่อกัน โดยดิ่งลง 26.3% จากปีก่อน มาอยู่ที่ 87.53 ล้านตัน    สำหรับสถานการณ์ในญี่ปุ่นเองนั้น ประธานสมาพันธ์ฯกล่าวว่า ดีมานด์เหล็กที่ใช้สำหรับการก่อสร้างยังคงอ่อนแอ แต่ความต้องการเหล็กสำหรับใช้ในการผลิตยานยนต์และเครื่องใช้ไฟฟ้า ภายในบ้านจะปรับตัวขึ้นในระดับปานกลาง  
 
 

     วันนี้ตลาด SHANGHAI (จีน) ปิดตลาด-685 ที่ราคา 23,780  ศูนย์ติดตามและวิเคราะห์สถานการณ์เศรษฐกิจจีนในสังกัดสำนัก งานสถิติแห่งชาติเปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค (CCI) ของจีนในไตรมาส 4 ปี 2552 พุ่งขึ้น 3.1% จากไตรมาสก่อนหน้านี้ แตะที่ระดับ 103.9 จุด

      นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า กระทรวงพาณิชย์สหรัฐจะรายงานยอดขายบ้านใหม่ที่เพิ่มขึ้น 3% แตะที่ 366,000 หลังในเดือนธ.ค. หลังจากที่อุปสงค์ในภาคอสังหาริมทรัพย์เดือนพ.ย.ตกลงสู่ระดับต่ำสุด ในรอบ 7 ปี ซึ่งเป็นช่วงที่มาตรการนโยบายลดหย่อนภาษี 8,000 ดอลลาร์ของรัฐบาลหมดอายุลง   หนึ่งในวิเคราะห์ที่เชื่อว่ายอดขายบ้านใหม่จะพุ่งสูงขึ้นแสดงความ เห็นว่า ยอดขายบ้านใหม่ในเดือนธ.ค.อาจดีดตัวขึ้นจากอานิสงส์ของการเพิ่มกรอบ เวลาและการขยายวงเงินลดหย่อนภาษีเงินกู้จำนองบ้านของรัฐบาล ทั้งนี้ รัฐบาลสหรัฐได้ขยายระยะเวลาการลดหย่อนภาษีสำหรับผู้ซื้อ บ้านใหม่จากเดิมที่หมดอายุในวันที่ 30 พ.ย.2552 ไปเป็นวันที่ 30 มิ.ย.2553 พร้อมทั้งเพิ่มเงินอุดหนุนที่ครอบคลุมถึงผู้ที่อยู่บ้านหลังเดิม ซึ่งความเคลื่อนไหวดังกล่าวจะช่วยกระตุ้นยอดขายบ้านของสหรัฐใน ช่วงเดือนต่อๆไปให้พุ่งสูงขึ้นอีก 

      กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) ประกาศทบทวนการคาดการณ์แนวโน้มเศรษฐกิจโลก โดยระบุว่าเศรษฐกิจโลกมีแนวโน้มขยายตัว 3.9% ในปีนี้ ซึ่งถือเป็นการคาดการณ์ที่สูงกว่าที่คาดไว้ก่อนหน้านี้ว่าจะ ขยายตัว 3.1% ส่วนในปีหน้าคาดว่า เศรษฐกิจโลกจะขยายตัว 4.3%

             

      ราคาน้ำมันดิบอยู่ 74.73 เหรียญดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล +0.02 เหรียญดอลลาร์สหรัฐ   โดยค่าเงินดอลลาร์สหรัฐที่กลับมาแข็งค่า ขึ้นเป็นตัวกดดันราคาน้ำมันดิบ 

      ราคาตลาดกลางหาดใหญ่วันนี้ น้ำยางสด 93.50 บาท + 2.00 บาท ราคายางแผ่นดิบ อยู่ที่ 94.36 บาท -0.25 บาท ยางแผ่นรมควันอยู่ที่ 96.81 บาท - 0.39 บาท ราคา FOB อยู่ที่ 103.25 บาท -1.00 บาท ในช่วงนี้ภาคใต้ปริมาณฝนน้อยล งทำให้ปริมาณยางออกสู่ตลาดเพิ่มขึ้น 

                                                      ราคาสินค้า

  27 มกราคม 2553    
     
             
  น้ำมันดิบ 74.73    +0.02      
  ทองคำ 1094.00                  
  เยนต่อดอลลาร์ 89.48        
  บาทต่อดอลลาร์ 33.02        
  บาทต่อเยน 36.88        
  ข้าวขาว5% (คน.) 16.95   -0.00 ข้าวหอมมะลิ          30.75 +0.00
  TOCOM ญี่ปุ่น 275.6    -2.6 คิดเป็นบาท 101.60  
  SHANGHAI จีน 23,780    -685      
  AFET ไทย 99.30   -2.65 ส่วนต่าง Afet/Tocom 2.30
ราคาตลาดกลางหาดใหญ่      
  น้ำยางสด 93.50 +2.00      
  ยางแผ่นดิบ 94.36 -0.25      
  ยางแผ่นรมควันชั้น3 96.81 -0.39      
  ราคาFOB 103.25 -1.00



 

 





2010-01-26 กราฟราคายางAFET,TOCOM,SHANGHAI,ค่าเงินเยน,ราคาทองคำ, ราคาน้ำมันดิบ,ราคาข้าวCBOT , Dowjones


ดูกราฟ แล้ว เสียว

จากสาวสวยคนนึงเขียนถึงผู้ชายในเน็ท ขอบอกว่าสุดยอด!!

---------- จดหมายที่ถูกส่งต่อ ----------





 
ก่อนอื่นดิฉันขอสาบานว่าสิ่งที่ดิฉันพูดเป็นความจริงค่ะ ดิฉันอายุ 25 ปีค่ะ ความสูง 170 ซม . น้ำหนัก 50 กิโล ส่วนสัด 34-24-36 ผมยาว หน้าตาจัดว่าสวยมาก เซ็กซี่ มีรสนิยม ดิฉันอยากจะแต่งงานกับผู้ชายรายได้สักสองแสนบา ทอัพต่อเดือนสักคน คุณอย่าเพิ่งมองฉันโลภนะคะ รายได้ประมาณสองแสนเนี้ยแค่ชนชั้นระดับกลางๆในห้องสินธรหรือวงการตลาดหุ้นเอง ฉันไม่ได้เรียกร้องมากไปใช่ไหมคะ มีใครในพันทิพ ห้องสินธร นี้ที่รายได้เกินสองแสนบ้างคะ พวกคุณแต่งงานไปกันหมดหรือยัง กรุณาช่วยตอบดิฉันทีค่ะ คือดิฉันอยากแต่งงานกับคนรวยๆ อย่างพวกคุณ พวกที่ดิฉันคบด้วยนี่มีแต่พวกธรรมดาๆรายได้อย่างมากไม่เกินสามหมื่นเอง รายได้แค่นี้จะอุตริไปซื้อบ้านแถวสีลมเนี่ย ยังได้แค่มองเลยใช่ไหมคะ ดิฉันมีคำถามดังนี้ค่ะ กรุณาช่วยตอบด้วยนะคะ
>
>
> 1. หลังจากตลาดหุ้นปิด พวกคุณมักไปต่อที่ไหนกันคะ ( ชื่อร้าน , ผับ , fitness, ฯลฯ )
>
>
> 2. ถ้าจะแอบมองสาว คุณจะมองสาววัยไหนคะ
> 3. ทำไมคนที่แต่งงานกับคนรวยๆถึงมีแต่พวกอาซิ่มเฉิ่มๆ รสนิยมห่วยๆล่ะคะ  
>
>
> 4. คุณใช้อะไรเป็นเกณฑ์ในการเลือกคนที่คุณจะแต่งงานด้วยคะ '
>
>
> ------------------------
> หลังจากนั้นไม่เกิน 30 นาที ก็มีเมล จากชายหนุ่มคนนึงส่งมาถึงเจ้าหล่อนว่า :  
>
>
>
> ถึงคุณสุดสวยครับ ...
> หัวข้อกระทู้ของคุณน่าสนใจมากครับ และคงมีผู้หญิงหลายคนมีคำถามเดียวกันกับคุณ ขออนุญาตตอบคำถามในมุมมองของคนเล่นหุ้นแบบผมนะคับ
> รายได้ของผมจากการเป็นนักวิเคราะห์หลักทรัพย์และลงทุนในตลาดหุ้นมากว่า 10 ปี อยู่ที่ประมาณห้าแสนบาท ต่อเดือนขาดเหลือนิดหน่อย ซึ่งก็น่าจะผ่านเกณฑ์ของคุณ ดังนั้นผมเชื่อว่าคำตอบของผม น่าจะไม่ทำให้คุณเสียเวลาอ่านนะครับ
>
>
> จากมุมมองของผมซึ่งเป็นนักธุรกิจ การที่แต่งงานโดยเลือกเฉพาะที่ความสวยเพียงอย่างเดียวนั้น ถือว่าเป็นการตัดสินใจที่ผิดพลา ด คำตอบนั้นง่ายมาก อธิบายตามตรง จากข้อมูลที่คุณให้มา คุณพยายามจะเน้นจุดแข็งของสินค้าคือ ' ความสวย ' เพื่อแลกกับ ' เงิน '
>
>
> เมื่อคุณมีความสวย และผมมีเงิน แน่นอนว่ามัน Fair และน่าจะเป็นไปได้กับโอกาสทางธุรกิจที่คุณเสนอแต่ก็ติดปัญหาที่ว่าความสวยของคุณนั้นจืดจางลงทุกวัน ในขณะที่เงินของผมไม่ได้ไปไหน ถ้าไม่มีปัญหาอะไร หรือในอีกนัยหนึ่ง รายได้ของผมมีแต่จะเพิ่มทุกปีและเงินของผมก็สามารถนำไปให้ก่อให้เกิดผลตอบแทนงอกเงยขึ้นอย่างสม่ำเสมอ ในขณะที่คุณไม่ได้สวยขึ้นเมื่อข้ามปี และมีแนวโน้มที่จะลดลงๆ ในแต่ละปีที่ผ่านไปเช่นกัน
>
>
> ในมุมมองของนักเศรษฐศาสตร์ คุณคือสินทรัพย์ที่เสื่อมค่า ไม่ได้เสื่อมธรรมดานะ เสื่อมแบบอัตราก้าวหน้า ดังนั้นถ้าความสวยคือสิ่งเดียวที่คุณมี ก็จงคิดต่อว่า 10 ปีข้างหน้าจะทำอย่างไร
>
>
> นิยามที่เราใช้กันในตลาดหุ้น คือ ทุกๆ การ Trade มี Position การคบกับคุณก็ถือเป็น Position แต่ถ้า Value ของมันลดลง เราจะขายมันทิ้ง ไม่ใช่ความคิดที่ดีที่จะดันทุรังเก็บมันไว้ ซึ่งหมายถึงการแต่งงานที่คุณต้องการ อาจจะแทงใจดำถ้าผมต้องบอกคุณตรงๆอย่างจริงใจว่า ถ้า Value ของ Asset ลดลงเรื่อยๆ ถ้าเราไม่ขายทิ้ง เราจะ ใช้วิธีการ ' ให้เช่าซื้อ ' แทน
>
>
> แน่นอนว่าคนที่มีรายได้เกินสองแสนบาทต่อเดือนฉลาดพอ พวกเขาแค่คบคุณ แต่จะไม่แต่งงานกับคุณ
> ดังนั้นจึงขอแนะนำคุณอย่างหวังดีว่าคุณควรที่จะหยุดที่จะหาวิธีที่จะได้แต่งงานกับคนรวย และคุณควรที่จะทำให้ตัวเองเป็นคนที่มีรายได้เกินสองแสนบาทแทนซะเอง ซึ่งในทางเทคนิคแล้วน่าจะมีโอกาสมากกว่าการหาคนรวยแต่โง่คนนึง ( รวยธรรมดาอย่างเดียวไม่พอ ต้องโง่พร้อมด้วย ) หวังว่าคำตอบนี้จะช่วยคุณได้บ้าง อย่างไรก็ตามถ้าหากคุณสนใจ option ในบริการ ! ' เช่าซื้อ ' กรุณาติดต่อผม ..... เพื่อทำ Bid offer ในโอกาสต่อไป ***** ********* 

 


2553-01-26

2010-01-25 กราฟราคายางAFET,TOCOM,SHANGHAI,ค่าเงินเยน,ราคาทองคำ, ราคาน้ำมันดิบ,ราคาข้าวCBOT , Dowjones


การเคลื่อนไหว ราคายางแผ่นรมควันชั้น 3 AFET

25 มกราคม 2553

  แนวรับ             101.00

  แนวต้าน               103.00

 Open 103.25 High 103.30 Low 102.70 Close 102.75 Change -0.95 

   วันนี้ ตลาด AFET อยู่ที่ 102.75 บาท ลดลง 0.95 บาท จากปัจจัยที่ นโยบายเศรษฐกิจของสหรัฐอเมริกา และจีน รวมถึงค่าเงินดอลลาร์สหรัฐที่แข็งค่าขึ้น 

      ตลาดTOCOM ปิดตลาดที่ราคา 286.10 เยน +0.1 เยน โดยมีแนวรับ 280  แนวต้านที่ 310 เยน   โตโยต้า ได้เรียกคืนรถยนต์จำนวน 2.3 ล้านคันในสหรัฐ เพื่อนำกลับมาแก้ปัญหาเกี่ยวกับคันเร่งค้าง โดยรถรุ่นที่เรียกคืนได้แก่โตโยต้า ราฟโฟร์ ปี 2009-2010 โตโยต้า โคโรลล่า ปี 2009-2010 โตโยต้า แมทริกซ์ ปี 2009-2010 โตโยต้า อวาลอน ปี 2005-2010 โตโยต้า คัมรี ปี  2007-2010 โตโยต้า ไฮแลนเดอร์ ปี 2010 โตโยต้า ทุนดร้า ปี 2007-2010 และโตโยต้า Sequoia ปี 2008-2010

      ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) เริ่มจัดการประชุมคณะกรรมการกำหนดนโยบายวันนี้ ขณะที่ตลาดคาดการณ์ว่าบีโอเจจะคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ 0.1% หลังจากแบงค์ชาติได้ระบุในการประชุมครั้งที่แล้วว่า จะคงนโยบายการเงินแบบผ่อนปรนไว้ เพื่อผลักดันเศรษฐกิจให้หลุดพ้นจากภาวะดังเงินฝืด และรักษาระดับการขยายตัวอย่างยั่งยืน 
 

     วันนี้ตลาด SHANGHAI (จีน) ปิดตลาด-70 ที่ราคา 24, 590  ธนาคารโลกรายงานข้อมูลด้านตลาดอสังหาริมทรัพย์ของ จีนอาจเป็นสัญญาณบ่งชี้ถึงระดับการเก็งกำไรที่ส่งผลกระทบให้ราคา อสังหาริมทรัพย์ในเมืองใหญ่บางแห่งพุ่งสูงขึ้น ผู้เชี่ยวชาญจากธนาคารโลกตั้งข้อสังเกตว่า การรายงานข้อมูลเศรษฐกิจอย่างเป็นทางการจีนอาจสะท้อนให้เห็นถึง สถานการณ์ที่เกิดขึ้นในขณะนี้ ซึ่งบ่งชี้ผู้บริโภคเริ่มซื้อสินทรัพย์ในรูปของอสังหาริมทรัพย์เพราะ คิดว่าอีกไม่นานมูลค่าสินทรัพย์ประเภทนี้จะปรับตัวสูงขึ้น  
         โดยราคาอสังหาริมทรัพย์ของจีนในเดือนธ.ค.ไต่ระดับขึ้นสูงสุดใน รอบกว่า 18 เดือน ซึ่งบ่งชี้ให้เห็นถึงอุปสรรคในการควบคุมกระแสเก็งกำไรใน ขณะที่เศรษฐกิจฟื้นตัวขึ้น ขณะที่รัฐบาลจีนอาจต้องเพิ่มมาตรการควบคุมเม็ดเงินดังกล่าว หลังจากที่ธนาคารกลางจีนได้แนะให้สถาบันการเงินเพิ่มการถือครอง สินทรัพย์ในรูปของทุนสำรองมากขึ้น  
         สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ในเดือนธ.ค.ราคาที่อยู่อาศัยและอสังหาริมทรัพย์เชิงพาณิชย์ใน 70 เมืองของจีนปรับตัวเพิ่มขึ้น 7.8% จากปีที่ผ่านมา ซึ่งสูงกว่าระดับที่ขยายตัว 5.7% ในเดือนพ.ย. ขณะที่มูลค่าบ้านหรูในเซี่ยงไฮ้ขยายตัวเพิ่มขึ้น 2 เท่าในปีที่แล้ว
ทั้งนี้ ผู้สันทัดกรณีมองว่า สภาพคล่องส่วนเกินในระบบเศรษฐกิจของจีนคือต้นเหตุ ของภาวะเงินเฟ้อและภาวะฟองสบู่ในสินทรัพย์ ที่สำคัญจีนต้องหันมาตระหนักถึงการใช้จ่ายภาคสาธารณะด้วย มิเช่นนั้นจีนจะเผชิญกับปัญหาเงินเฟ้อในภายหลัง

  นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ว่า ยอดขายบ้านมือสองประจำเดือนธ.ค. 2552 จะร่วงลง 9.8% แตะระดับ 5.9 ล้านยูนิต/ปี จากเดือนพ.ย.ที่ระดับ 6.54 ล้านยูนิต ซึ่งจะเป็นสถิติที่ปรับตัวลงครั้งแรกในรอบ 4 เดือน หลังจากนโยบายลดหย่อนภาษีให้กับผู้ซื้อบ้านหลังแรกหมดอายุลง กลุ่ม ผู้ซื้อบ้านหลังแรกของสหรัฐแห่ทำสัญญาซื้อบ้านก่อนที่นโยบายลด หย่อนภาษี 8,000 ดอลลาร์ของรัฐบาลจะหมดอายุลงในวันที่ 30 พ.ย. ทำให้นักวิเคราะห์คาดว่ายอดขายบ้านมือสองเดือนธ.ค.จะหด ตัวลง โดยสมาคมนายหน้าค้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติของสหรัฐจะเปิดเผยตัวเลข ดังกล่าวในคืนนี้  
  

      ราคาน้ำมันดิบอยู่ 74.45 เหรียญดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล -0.09 เหรียญดอลลาร์สหรัฐ   โดยค่าเงินดอลลาร์สหรัฐที่กลับมาแข็งค่า ขึ้นเป็นตัวกดดันราคาน้ำมันดิบ 

      ราคาตลาดกลางหาดใหญ่วันนี้ น้ำยางสด 92.00 บาท - 1.50 บาท ราคายางแผ่นดิบ อยู่ที่ 94.10 บาท -0.29 บาท ยางแผ่นรมควันอยู่ที่ 96.99 บาท - 0.22 บาท ราคา FOB อยู่ที่ 104.25 บาท -1.00 บาท ในช่วงนี้ภาคใต้ปริมาณฝนน้อยล งทำให้ปริมาณยางออกสู่ตลาดเพิ่มขึ้น 

                                                      ราคาสินค้า

  25 มกราคม 2553    
     
             
  น้ำมันดิบ 74.45    -0.09      
  ทองคำ 1100.00                  
  เยนต่อดอลลาร์ 90.22        
  บาทต่อดอลลาร์ 32.96        
  บาทต่อเยน 36.52        
  ข้าวขาว5% (คน.) 16.95   -0.00 ข้าวหอมมะลิ          30.75 +0.00
  TOCOM ญี่ปุ่น 286.1    +0.1 คิดเป็นบาท 104.80  
  SHANGHAI จีน 24,590    -70      
  AFET ไทย 102.75   -0.95 ส่วนต่าง Afet/Tocom 2.00
ราคาตลาดกลางหาดใหญ่      
  น้ำยางสด 92.00 -1.50      
  ยางแผ่นดิบ 94.10 -0.29      
  ยางแผ่นรมควันชั้น3 96.99 -0.22      
  ราคาFOB



 

 



Keep your friends updated— even when you’re not signed in.

2553-01-25

2010-01-20 กราฟราคายางAFET,TOCOM,SHANGHAI,ค่าเงินเยน,ราคาทองคำ, ราคาน้ำมันดิบ,ราคาข้าวCBOT , Dowjones

การเคลื่อนไหว ราคายางแผ่นรมควันชั้น 3 AFET

20 มกราคม 2553

  แนวรับ             104.00

  แนวต้าน               109.00

 Open 107.50 High 107.50 Low 105.60 Close 105.85 Change -0.85 

   วันนี้ ตลาด AFET อยู่ที่ 105.85 บาท ลดลง 0.85 บาท บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด แจ้งยอดจำหน่ายรถยนต์ฮอนด้าในเดือนธันวาคม 2552 มีจำนวน 11,851 คัน และมียอดจำหน่ายรวมของปี 2552 จำนวน 93,409 คัน ซึ่งคิดเป็นส่วนแบ่งตลาด 17% ของตลาดรถยนต์โดยรวม (548,871 คัน) โดยมีอัตราการเพิ่มขึ้น 3% จากปีที่ผ่านมา 

               สถิติการจำหน่ายรถยนต์ เดือนมกราคม — ธันวาคม 2552  
 
1) ตลาดรถยนต์รวม ปริมาณการขาย 548,871 คัน ลดลง 10.8%                                
 
         อันดับที่ 1 โตโยต้า          230,585 คัน          ลดลง    12.1%             ส่วนแบ่งตลาด 42.0%   ส่วนต่าง        -    คัน  
 
         อันดับที่ 2 อีซูซุ           110,969 คัน          ลดลง    16.8%             ส่วนแบ่งตลาด 20.2%   ส่วนต่าง 119,616 คัน  
 
         อันดับที่ 3 ฮอนด้า           93,409 คัน          เพิ่มขึ้น    2.9%             ส่วนแบ่งตลาด 17.0%   ส่วนต่าง  137,176 คัน  
 
 
 

      ตลาดTOCOM ปิดตลาดที่ราคา 297.70 เยน -3.1 เยน โดยมีแนวรับ 280  แนวต้านที่ 310 เยน  นาโอโตะ คัง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังของญี่ปุ่น กล่าวว่า เศรษฐกิจญี่ปุ่นยังคงเผชิญความเสี่ยงที่จะกลับเข้าสู่ภาวะ ถดถอยอีกครั้ง (double-dip recession) 
 

     วันนี้ตลาด SHANGHAI (จีน) ปิดตลาด+225 ที่ราคา 25,270    สมาคมผู้ค้ารถยนต์แห่งมาเลเซียเปิดเผยในวันนี้ว่า ยอดขายรถยนต์ปี 2552 ของมาเลเซีย ปรับตัวลง 2% แตะที่ 536,905 คัน ซึ่งลดลงน้อยกว่าที่คาดการณ์ไว้ และคาดว่ายอดขายจะทะยานขึ้นสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในปีนี้เนื่อง จากเศรษฐกิจโลกเริ่มฟื้นตัวขึ้น นอกจากนี้ ปัจจัยที่ทำให้ยอดขายรถยนต์ปี 2552 ลดลงน้อยเกินคาดนั้น ยังมาจากการที่รัฐบาลมาเลเซียใช้มาตรการ กระตุ้นการใช้จ่ายผู้บริโภค รวมถึงฟื้นฟูความเชื่อมั่นภาคธุรกิจนางอาอิซะห์ อาหมัด ประธานสมาคมผู้ผลิตรถยนต์แห่งมาเลเซียคาดการณ์ว่า ยอดขายรถยนต์ในปี 2553 จะพุ่งขึ้นแตะระดับ 566,500 คัน ทะลุสถิติสูงสุดของยอดขายในปี 2548 ที่ระดับ 552,614 คัน และพุ่งขึ้นเป็น 618,000 คันภายในปี 2556 พร้อมกับแสดงความเชื่อมั่นว่าการปรับโครง สร้างนโยบายสนับสนุนอุตสาหกรรมรถยนต์ของรัฐบาลจะไม่ส่งผลกระทบใน ระยะยาวต่อยอดขาย เนื่องจากกลุ่มผู้ซื้อรถยนต์ราคาแพงมีกำลังซื้อสูงพอที่จะจ่ายค่า เชื้อเพลิงที่สูงขึ้นได้ ส่วนอีกปัจจัยที่จะทำให้ยอดขายรถยนต์พุ่งขึ้นแข็งแกร่งสุดในปี 2553 มาจากอัตราดอกเบี้ยในมาเลเซียที่ยังยืนอยู่ที่ระดับต่ำ  
       

 
    ราคาน้ำมันดิบอยู่ 78.43 เหรียญดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล -0.59 เหรียญดอลลาร์สหรัฐ   โดยสภาพอากาศยังคงรุนแรงอยู่จึงมีผลให้ ความต้องการพลังยังคงสูงโดยเฉพาะถ่านหิน และน้ำมันดิบ และตัวเลขเศรษฐกิจที่ออกมาดีทำให้เชื่อว่าจีนจะขยายตัวไป ได้อีก 
 

      ซิตี้กรุ๊ป  อิงค์ ประสบภาวะขาดทุน  2 ปีซ้อนในปีที่ผ่านมา ขณะที่บริษัทต้องหาเงินใช้หนี้ 2 หมื่นล้านดอลลาร์คืนให้แก่โครงการที่รัฐบาลให้ความช่วยเหลือใน ช่วงก่อนหน้านี้ โดยซิตี้กรุ๊ป รายงานตัวเลขขาดทุนไตรมาส 4 ของปีที่ผ่านมาที่ 7.6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ 33 เซนต์/หุ้น ซึ่งตัวเลขดังกล่าวน้อยกว่าที่ขาดทุนหนักเป็น ประวัติการณ์ถึง 1.73 หมื่นล้านดอลลาร์ หรือ 3.40 ดอลลาร์/หุ้นในช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา ขณะที่ตัวเลขขาดทุนตลอดทั้งปีอยู่ที่ 1.6 พันล้านดอลลาร์ หรือ 80 เซนต์/หุ้น  

ข้าว

  บูล็อก (Bulog) บริษัทจัดการด้านอาหารของทางการอินโดนีเซีย เปิดเผยว่า ปรากฏการณ์เอลนินโญอาจทำให้อินโดนีเซียผลิตข้าวได้น้อยลงใน ปีนี้  
         เอลนินโญเป็นปรากฏการณ์ที่ทำให้ฝนตกช้าหรือตกน้อยลงทั่วเอเชีย ซึ่งปัจจัยดังกล่าวอาจส่งผลเสียต่อการปลูกข้าว น้ำตาล และปาล์มน้ำมัน ส่งผลให้พืชผลทางการเกษตรมีราคาสูงขึ้น โดยก่อนหน้านี้ไทยและฟิลิปปินส์ซึ่งเป็นผู้ส่งออกและนำเข้าข้าวราย ใหญ่สุดตามลำดับ ก็ออกมาเตือนว่าสภาพอากาศที่ไม่เอื้ออำนวยอาจทำให้ผลผลิตข้าวลดลง          ผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่าหากรัฐบาลไม่เข้าแทรกแซงด้วยวิธีการ ต่างๆ อาทิ การมอบพันธุ์ข้าวที่ทนต่อความแห้งแล้งให้กับเกษตรกร ผลผลิตข้าวอาจขยายตัวไม่ถึง 3% ในปีนี้ จากที่ขยายตัวถึง 5% ในปีที่แล้ว อย่างไรก็ตาม ผลผลิตข้าวยังคงเพียงพอต่อความต้องการในประเทศ  
  ทั้งนี้ ราคาส่งออกข้าวของไทยซึ่งเป็นมาตรฐานของเอเชีย อยู่ที่ระดับ 609 ดอลลาร์/เมตริกตัน ณ วันที่ 13 มกราคม เพิ่มขึ้นจากระดับ 607 ดอลลาร์/ตันในสัปดาห์ก่อนหน้า ส่วนสัญญาข้าวในตลาด CBOT อยู่ที่ระดับ 13.98 ดอลลาร์/100 ปอนด์ในวันนี้

       

      ราคาตลาดกลางหาดใหญ่วันนี้ น้ำยางสด 93.50 บาท + 2.00 บาท ราคายางแผ่นดิบ อยู่ที่ 96.46 บาท +1.03 บาท ยางแผ่นรมควันอยู่ที่ 100.49 บาท + 0.87 บาท ราคา FOB อยู่ที่ 106.00 บาท +1.25 บาท ในช่วงนี้ภาคใต้มีฝนตกหนัก ทำให้ปริมาณยางออกสู่ตลาดน้อย 
 
 

                                                      ราคาสินค้า

  20 มกราคม 2553    
     
             
  น้ำมันดิบ 78.43    -0.59      
  ทองคำ 1131.00                  
  เยนต่อดอลลาร์ 90.89        
  บาทต่อดอลลาร์ 32.90        
  บาทต่อเยน 36.20        
  ข้าวขาว5% (คน.) 17.05   -0.00 ข้าวหอมมะลิ          30.75 +0.00
  TOCOM ญี่ปุ่น 297.7    -3.1 คิดเป็นบาท 107.80  
  SHANGHAI จีน 25,270    +225      
  AFET ไทย 105.85   -0.85 ส่วนต่าง Afet/Tocom 2.00
ราคาตลาดกลางหาดใหญ่      
  น้ำยางสด 93.50 +2.00      
  ยางแผ่นดิบ 96.46 +1.03      
  ยางแผ่นรมควันชั้น3 100.49 +0.87      
  ราคาFOB 106.00 +1.25  



2010-01-21 กราฟราคายางAFET,TOCOM,SHANGHAI,ค่าเงินเยน,ราคาทองคำ, ราคาน้ำมันดิบ,ราคาข้าวCBOT , Dowjones


การเคลื่อนไหว ราคายางแผ่นรมควันชั้น 3 AFET

21 มกราคม 2553

  แนวรับ             104.00

  แนวต้าน               109.00

 Open 105.00 High 107.00 Low 105.00 Close 106.70 Change +0.85 

   วันนี้ ตลาด AFET อยู่ที่ 106.70 บาท เพิ่มขึ้น 0.85 บาท จากปัจจัยที่ประเทศจีนตัวเลย GDP และCPI ปรับตัวเพิ่มขึ้น รวมถึงดัชนีอุตสาหกรรมของจีนก็ปรับตัวดี ขึ้นทำให้คาดว่าจีนยังคงมีความต้องการยางธรรมชาติเพิ่มขึ้นต่อ เนื่อง รวมถึงสภาพอากาศทางใต้ในบ้างพื้นที่ยางเริ่มผลัดใบ  ทำให้ปริมาณยางออกสู่ตลาดน้อย 
 

      ตลาดTOCOM ปิดตลาดที่ราคา 298.00 เยน -4.6 เยน โดยมีแนวรับ 280  แนวต้านที่ 310 เยน  ธนาคารโลกคาดการณ์ว่า เศรษฐกิจของกลุ่มประเทศกำลังพัฒนา ในเอเชียตะวันออก ซึ่งไม่รวมญี่ปุ่น ฮ่องกง ไต้หวัน เกาหลีใต้ และสิงคโปร์ จะขยายตัวในอัตรา 8.1% ในปี 2553 ซึ่งสูงกว่าที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ว่าจะขยายตัวเพียง 7.8% ขณะเดียวกันคาดว่าเศรษฐกิจในเอเชียใต้จะขยายตัว 7% ในปี 2553อย่างไรก็ตาม ธนาคารโลกเตือนว่าเศรษฐกิจของกลุ่มประเทศกำลังพัฒนา ในเอเชียอาจเผชิญความเสี่ยงของภาวะฟองสบู่ด้านสินทรัพย์และอัตรา ขยายตัวที่ร้อนแรงเกินไป  
         
ธนาคารโลกระบุว่า เอเชียจะเป็นแกนนำสำคัญที่พยุงเศรษฐกิจ ทั่วโลกให้ฟื้นตัวจากภาวะถดถอยรุนแรง หลังจากธนาคารกลางในเอเชียตัดสินใจลดอัตราดอกเบี้ย และรัฐบาลในเอเชียใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจวงเงินรวมกว่า 9.50 หมื่นล้านดอลลาร์ แต่จนถึงขณะนี้พบว่า มีธนาคารกลางบางแห่งในเอเชียตัดสินใจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย หรือ มาตรการดูดซับสภาพคล่องส่วนเกินออกจากระบบการธนาคาร เพื่อยับยั้งเงินเฟ้อ  
         นอกจากนี้
ธนาคารโลกคาดการณ์ว่า เศรษฐกิจจีนจะขยายตัว 9% ในปีนี้และปีหน้า ขณะที่เศรษฐกิจในประเทศไทยและมาเลเซียจะกลับมา ขยายตัวได้ดีในปีนี้ ส่วนเศรษฐกิจเวียดนามและอินโดนีเซียคาดว่าจะขยายตัวอย่างรวดเร็ว และคาดว่าเศรษฐกิจอินเดียจะขยายตัว 7.6% ในปีนี้ และ 8% ในปีหน้า  
         
ธนาคารโลกคาดว่า กระแสเงินทุนไหลเข้าจำนวนมากใน เอเชียใต้จะทำให้รัฐบาลตัดสินใจปรับขึ้นค่าเงินในประเทศของตนเอง ซึ่งจะทำให้อุตสาหกรรมส่งออกซบเซาลง 

     วันนี้ตลาด SHANGHAI (จีน) ปิดตลาด+285 ที่ราคา 25,730    สำนักงานสถิติแห่งชาติจีนเปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของจีน ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อที่สำคัญขยายตัวขึ้น 1.9% เมื่อเทียบเป็นรายปีในเดือนธ.ค. 2552 ซึ่งถือเป็นตัวเลขที่ขยายตัวขึ้นมาจากสถิติเดือนพ.ย.ที่ขยายตัว 0.6% และเป็นช่วงที่ดัชนีเริ่มปรับตัวขึ้นเป็นครั้งแรกในรอบ 9 เดือนส่วนดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ขยายตัว 1.7% ในเดือนธ.ค.จากระดับปีที่แล้ว นับเป็นการขยายตัวเป็นครั้งแรกในรอบเดือน นับตั้งแต่เดือนธ.ค. 2552 เมื่อเดือนธ.ค.ที่ผ่านมา ราคาผู้บริโภคในเขตเมืองลดลง 0.9% และชนบทลดลง 0.3% ส่วนราคาอาหารที่คิดเป็นสัดส่วนประมาณ 1 ใน 3 ของ CPI เพิ่มขึ้น 0.7%

         โดยผลผลิตภาคอุตสาหกรรมปี 2552 ขยายตัว 11% จากปี 2552 แต่ยังต่ำกว่าปี 2551 อยู่ประมาณ 1.9%  
         นายหม่า เจียนถัง ผู้อำนวยการ
สำนักงานสถิติแห่งชาติระบุว่า ผลผลิตสินค้าอุตสาหกรรมมูลค่าเพิ่ม ดีดตัวขึ้น 18.5%ต่อปี ในเดือนธ.ค. เมื่อเทียบกับเดือนพ.ย.ที่ขยายตัว 19.2%ต่อปี        

         ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ไตรมาส 4 ปี 2552 ขยายตัว 10.7% เมื่อเทียบกับไตรมาส 4 ปีที่แล้ว มากกว่าไตรมาส 3 ที่ขยายตัว 8.9% ส่วนจีดีพีปี 2552 ขยายตัว 8.7% คิดเป็นมูลค่าทั้งสิ้น 33.54 ล้านล้านหยวน หรือ 4.91 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ

            แดวู บริษัทในเครือจี เอ็ม  หรือเจนเนอรัล มอเตอร์ส ได้เปิดตัวขายรถยนต์รุ่นเล็กในเกาหลีใต้ โดยมีชื่อว่า "มาทิซ ครีเอทีฟ" ที่มาพร้อมกับเครื่องยนต์เบนซินบล็อกใหม่ 1,000โปรเจกต์นี้มีไอเดียเริ่มต้นอยู่ที่การผลิตเพื่อขายในตลาด สหรัฐอเมริกายุคที่รถยนต์ไซส์เล็ก   จีเอ็มวางเป้าหมายในการผลิตเพื่อขาย 150 ประเทศทั่วโลก ไม่ใช่แค่สหรัฐอเมริกาที่เดียว ผลคือ แดวูซึ่งรับหน้าที่การพัฒนารถยนต์ไซส์เล็กให้กับจีเอ็ม ก็เลยได้เข้ามามีส่วนในงานนี้ และได้รับสิทธิ์การประเดิมตลาดรถยนต์รุ่นนี้ซึ่งรู้จักในชื่อ Global Mini Car เป็นแบรนด์แรก        จีเอ็มทุ่มทุนจำนวน 29,500 ล้านวอน และใช้เวลาประมาณ 27 เดือนสำหรับการเตรียมงานครั้งนี้ ซึ่ง Global Mini Car ที่จะขายในเกาหลีใต้มาในชื่อ มาทิซ ครีเอทีฟ และจะขายคู่กับมาทิซรุ่นธรรมดา          ราคาขายในเกาหลีใต้เคาะออกมาแล้วที่ 9.06-10.09 ล้านวอน  

      ราคาน้ำมันดิบอยู่ 77.85 เหรียญดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล +0.11 เหรียญดอลลาร์สหรัฐ   โดยสภาพอากาศยังคงรุนแรงอยู่จึงมีผลให้ ความต้องการพลังยังคงสูงโดยเฉพาะถ่านหิน และน้ำมันดิบ และตัวเลขเศรษฐกิจที่ออกมาดีทำให้เชื่อว่าจีนจะขยายตัวไป ได้อีก

      ราคาตลาดกลางหาดใหญ่วันนี้ น้ำยางสด 95.00 บาท + 1.50 บาท ราคายางแผ่นดิบ อยู่ที่ 95.48 บาท -0.98 บาท ยางแผ่นรมควันอยู่ที่ 99.09 บาท - 1.40 บาท ราคา FOB อยู่ที่ 106.00 บาท +0.00 บาท ในช่วงนี้ภาคใต้มีฝนตกหนัก ทำให้ปริมาณยางออกสู่ตลาดน้อย 

                                                      ราคาสินค้า

  21 มกราคม 2553    
     
             
  น้ำมันดิบ 77.81    +0.07      
  ทองคำ 1111.00                  
  เยนต่อดอลลาร์ 91.54        
  บาทต่อดอลลาร์ 32.94        
  บาทต่อเยน 35.95        
  ข้าวขาว5% (คน.) 17.05   -0.00 ข้าวหอมมะลิ          30.75 +0.00
  TOCOM ญี่ปุ่น 298.0    -4.6 คิดเป็นบาท 107.00  
  SHANGHAI จีน 25,730    +285      
  AFET ไทย 106.70   +0.85 ส่วนต่าง Afet/Tocom 0.30
ราคาตลาดกลางหาดใหญ่      
  น้ำยางสด 95.00 +1.50      
  ยางแผ่นดิบ 95.48 -0.98      
  ยางแผ่นรมควันชั้น3 99.09 -1.40      
  ราคาFOB 106.00 +0.00